๒๖ มิถุนายน ทีฆายุโก โหตุ สังฆราชา สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

 
 
 
เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ถือเป็นวันสำคัญของหน้าประวัติศาสตร์ชาติด้านวงการพระพุทธศาสนา โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร โปรดสถาปนา “สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ แห่งวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร” ขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และมีพระนามเรียกขานว่า “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ (อมฺพรมหาเถร) สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปริณายก”

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 

– สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ถือเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และใช้พระนามว่า “สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ” 
 

– สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ(อัมพร อมฺพโร)” ถือเป็นสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 3 ของวัด ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามฯ
พระองค์แรก คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์(หม่อมเจ้าภุชงค์ ชมพูนุท สิริวฑฺฒโน) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 13 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
องค์ที่ 2 คือ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
 

– ขั้้นตอนการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 20 มีความแตกต่าง ตรงที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีความเห็นพ้องแก้ไข “มาตรา 7” ของ พ.ร.บ. คณะสงฆ์ ฉบับปี พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2535 เพื่อถวายคืน “พระราชอำนาจ” ในการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชให้เป็นของพระมหากษัตริย์     

นั่นหมายความว่า การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ และมิได้ยึดโยงกับ “อาวุโสโดยสมณศักดิ์” เป็นสำคัญ
 

แต่กระนั้น การสถาปนา สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ (อัมพร อมฺพโร) ขึ้นเป็นสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกก็ยังคงความเหมาะสม และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง ด้วยสาเหตุไม่ได้มีข้อครหาใด ๆ มาทำให้เสื่อมพระเกียรติสกลมหาสังฆปริณายก ผู้เป็นประมุขของคณะสงฆ์ไทย และยังคงให้ความสำคัญกับอาวุโสทางสมณศักดิ์อยู่เหมือนเดิม 
 

– วัตรปฏิบัติหรือปฏิทาของสมเด็จพระสังฆราชทรงดำเนินไปด้วยความ “สมถะ-เรียบง่าย”  ไม่มี “รถยนต์ส่วนตัว” บางครั้งเมื่อทรงรับกิจนิมนต์ก็ยังเดินทางด้วยแท็กซี่ และมักทรงเดินทางไปปฏิบัติธรรมกับสหธรรมิกตามวัดต่าง ๆ เสมอมา โดยทางสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติจะจัดรถยนต์ถวายรับส่ง พระองค์ทรงปฎิบัติธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติว่าเป็นธรรมยุตหรือมหานิกาย


– พระองค์ทรงเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร โดยปัจจุบันเจ้าประคุณสมเด็จยังคงทรงเป็นประธานมูลนิธิพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร อีกด้วย
 

– พระองค์โปรดสนทนาธรรม กับพระสายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ในวัยหนุ่ม ทรงเดินทางไปสักการะและสนทนาธรรมกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ดูลย์ อตุโล หลวงปู่ขาว อนาลโย หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ซึ่งต่างเป็นพระสายวิปัสสนากัมมัฏฐานชื่อดังเป็นประจำ ว่ากันว่า โดยช่วงนั้น จะทรงฉันในบาตรเพียงมื้อเดียว เหมือนสายพระป่า และโปรดปฏิบัติกัมมัฏฐาน ใช้ชีวิตเรียบง่ายสมถะ
 

– เมื่อครั้งที่ยังทรงดำรงสมณศักดิ์เป็นพระมหามุนีวงศ์ ทรงเคยร่วมธุดงด์ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2503 ที่วัดถ้ำขาม หลังเทือกเขาภูพาน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร มีพระมหามุนีวงศ์และพระมหาสาครร่วมธุดงค์ปฏิบัติธรรมในสถานที่ด้วยกัน ครั้งนั้นได้ศึกษาธรรมะ เช่น หลวงปู่ขาว หลวงปู่หลุย หลวงตามหาบัวและเกจิจำนวนหลายองค์

 

– ทรงเป็น “สัทธิวิหาริก” หรือเรียกง่ายๆ ว่าเป็น “ศิษย์” ของ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสโน) สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ แห่งวัดราชบพิธฯ ที่ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์อีกด้วย

 

– ทรงคุ้นเคยงาน ทั้งในมหาเถรสมาคมและในพระบรมมหาราชวัง โดยทรงรับสนองงานสมเด็จพระสังฆราช (วาสนมหาเถร) อดีตเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ พระองค์ก่อน ก่อนจะขึ้นดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ ควบกับกรรมการมหาเถรสมาคม

 

– ทรงได้รับการยกย่องว่า ซื่อสัตย์ เด็ดขาด ตรงไปตรงมา (ตงฉิน) ดั่งเช่นสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ก่อน จึงเชื่อมั่นได้ว่า จะสามารถบังคับบัญชาสังฆมณฑล ได้อย่างน่าไว้วางใจ

สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนาให้การต้อนรับ มาดามเอวา ซูไลมัน (Madam Evariana Sulaiman)

     เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2564 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรปวีณ์  พุ่มเกิด ผู้อำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา  มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้การต้อนรับ มาดามเอวา ซูไลมัน (Madam Evariana Sulaiman) ภริยาท่านกงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา ประเทศไทย และคณะฯ เพื่อเยี่ยมชมห้องจัดแสดงนิทรรศการผ้าทอพื้นบ้านภาคใต้ ณ อาคารศูนย์ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

วันสุนทรภู่

พระสุนทรโวหาร นามเดิม ภู่ หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า สุนทรภู่ (26 มิถุนายน พ.ศ. 2329 – พ.ศ. 2398) เป็นอาลักษณ์ชาวไทยที่มีชื่อเสียงเชิงกวี ได้รับยกย่องเป็น เชกสเปียร์แห่งประเทศไทย เกิดหลังจากตั้งกรุงรัตนโกสินทร์ได้ 4 ปี และได้เข้ารับราชการเป็นอาลักษณ์ราชสำนักในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย เมื่อสิ้นรัชกาลได้ออกบวชเป็นเวลาร่วม 20 ปี ก่อนจะกลับเข้ารับราชการอีกครั้งในปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยเป็นอาลักษณ์ในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขุนอิศเรศรังสรรค์ ในสมัยรัชกาลที่ 4 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พระสุนทรโวหาร เจ้ากรมอาลักษณ์ฝ่ายพระราชวังบวร ซึ่งเป็นตำแหน่งราชการสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต

สุนทรภู่เป็นกวีที่มีความชำนาญทางด้านกลอน ได้สร้างขนบการประพันธ์กลอนนิทานและกลอนนิราศขึ้นใหม่จนกลายเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางสืบเนื่องมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ผลงานที่มีชื่อเสียงของสุนทรภู่มีมากมายหลายเรื่อง เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศสุพรรณ เพลงยาวถวายโอวาท กาพย์พระไชยสุริยา และ พระอภัยมณี เป็นต้น โดยเฉพาะเรื่อง พระอภัยมณี ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของวรรณคดีประเภทกลอนนิทาน และเป็นผลงานที่แสดงถึงทักษะ ความรู้ และทัศนะของสุนทรภู่อย่างมากที่สุด งานประพันธ์หลายชิ้นของสุนทรภู่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอนนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เช่น กาพย์พระไชยสุริยา นิราศพระบาท และอีกหลาย ๆ เรื่อง

ปี พ.ศ. 2529 ในโอกาสครบรอบ 200 ปีชาตกาล สุนทรภู่ได้รับยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านงานวรรณกรรม ผลงานของสุนทรภู่ยังเป็นที่นิยมในสังคมไทยอย่างต่อเนื่องตลอดมาไม่ขาดสาย และมีการนำไปดัดแปลงเป็นสื่อต่าง ๆ เช่น หนังสือการ์ตูน ภาพยนตร์ เพลง รวมถึงละคร มีการก่อสร้างอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไว้ที่ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง บ้านเกิดของบิดาของสุนทรภู่ และเป็นที่กำเนิดผลงานนิราศเรื่องแรกของท่านคือ นิราศเมืองแกลง นอกจากนี้ยังมีอนุสาวรีย์แห่งอื่น ๆ อีก เช่น ที่วัดศรีสุดาราม ที่จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดนครปฐม วันเกิดของสุนทรภู่คือวันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี ถือเป็น วันสุนทรภู่ ซึ่งเป็นวันสำคัญด้านวรรณกรรมของไทย มีการจัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติคุณและส่งเสริมศิลปะการประพันธ์บทกวีจากองค์กรต่าง ๆ โดยทั่วไป

ขอเชิญชมรายการสื่อส่อง…ท่องวัฒนธรรม ตอน เที่ยวผ่าน Live ชมห้องจัดแสดงผ้าทอพื้นบ้านภาคใต้

       สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขอเชิญรับชมLive รายการสื่อส่อง ท่องวัฒนธรรมตอน เที่ยวผ่าน Live ชมห้องจัดแสดงผ้าทอพื้นบ้านภาคใต้และการขายผลิตภัณฑ์จากผ้าทอท้องถิ่นใต้ และผ้าลีมาบาติกผลงานจากศูนย์เรียนรู้หัตถศิลป์ ของสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา

รับชมพร้อมกันได้ที่ : FB สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา  วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00-11.40 น.

พิเศษ!!! ร่วมตอบคำถามภายในรายการ รับฟรี:กระเป๋าผ้าลีมาบาติก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.074289680-2

โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ต.ตรัง อ.มายอ จ.ปัตตานี จัดการอบรมการมัดลายผ้าทอจวนตานี

     

โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ต.ตรัง นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรปวีณ์ พุ่มเกิด จัดการอบรมการมัดลายผ้าทอจวนตานี ระหว่างวันที่ 17-26  มิถุนายน2564 เพื่อเป็นการพัฒนาสัมมาอาชีพ การสร้างอาชีพช่างทอผ้าจวนตานี และกระจายรายได้การมัดลายผ้าทอสู่กลุ่มสตรี ส่งเสริมต่อยอดทุนวัฒนธรรมท้องถิ่น ณ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลตรัง อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี

ศูนย์เรียนรู้หัตถศิลป์ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา วิทยาเขตปัตตานี ให้บริการเป็นแหล่งเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติการทำผ้าบาติก

       

ศูนย์เรียนรู้หัตถศิลป์ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา วิทยาเขตปัตตานี ให้บริการเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการทำผ้าบาติกด้วยแม่พิมพ์โลหะ และการลงสี ให้แก่วิทยาลัยชุมชนปัตตานี ตามโครงการ  “การพัฒนาผ้าเพื่อการตัดเย็บ โดยใช้วัฒนธรรมชุมชนเป็นฐาน” ระหว่างวันที่ 17-19 มิถุนายน 2564 โดยมีนายวิษณุ เลิศบุรุษ เป็นวิทยากร

จากการสัมภาษณ์ อาจารย์ลาตีปะห์ ดอแม อาจารย์ประจำวิทยาลัยชุมชนปัตตานี ให้ข่าวว่า วิทยาลัยชุมชนปัตตานีได้รับทุนจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ให้ดำเนินโครงการ”การพัฒนาผ้าเพื่อการตัดเย็บ โดยใช้วัฒนธรรมชุมชนเป็นฐาน” จึงได้ลงชุมชนที่ตำบลจะรัง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563 ได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มแม่บ้าน ชื่อว่า “กลุ่มจารัง D ดงตาล”ซึ่งมีฝีมือทางการตัดเย็บอยู่แล้ว แต่มีความต้องการที่จะพัฒนาผ้าให้มีเอกลักษณ์และลวดลายเป็นของตนเอง เพื่อนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ของขุมชน จึงได้ติดต่อมายังสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา เพื่อเชิญนายวิษณุ เลิศบุรุษ ซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับกระบวนการทำผ้าและย้อมสีผ้า เพื่อเป็นวิทยากรในการอบรมชาวบ้านกลุ่มนี้

นายวิษณุ เลิศบุรุษ หัวหน้าศูนย์บริการวิชาการและพันธกิจเพื่อสังคม สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา ให้สัมภาษณ์ว่า ศูนย์เรียนรู้หัตถศิลป์ ยินดีให้เป็นแหล่งเรียนรู้  ฝึกอบรม และฝึกปฏิบัติการให้แก่หมู่คณะ และสถานศึกษาต่างๆ ได้ ผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเข้ามาได้หรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทุกช่องทางการสื่อสารที่ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา วิทยาเขตปัตตานี 

คณะทำงานโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ต.ปริก อ.สะเดา จ.สงขลา ร่วมประชุมแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานร่วมกันกับองค์การบริหารส่วนตำบลปริก

เมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ คณะทำงานโครงการ ๑ ตำบล ๑ มหาวิทยาลัย ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรปวีณ์ พุ่มเกิด ผู้อำนวยการ เข้าพบนายณัฐวุฒิ รองอนุชิต รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปริก และสิบตำรวจตรีหญิง สุมล จารุสาร ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลปริก เพื่อร่วมประชุมแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานร่วมกันในการต่อยอดกิจกรรมการทำผ้าบาติกแม่พิมพ์และการปลูกผักยกแคร่ ให้กระจายไปสู่กลุ่มเป้าหมายในภาพรวมของชุมชน สำหรับใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป

ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย และจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการจัดกิจกรรมการทำผ้าบาติก

คณะทำงานโครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พรปวีณ์ พุ่มเกิด ผู้อำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า โครงการ 1 ตำบล 1 มหาวิทยาลัย และจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการจัดกิจกรรมการทำผ้าบาติก ณ ศูนย์การเรียนรู้การทำผ้าบาติก ตำบลปริก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา

รายการสื่อส่องท่องวัฒนธรรม ตอน เกษตรอินเทรนด์ “ผักยกแคร่ ปลูกง่าย ปลอดภัย สไตล์พอเพียง”

เตรียมพบกับ‼‼‼
🔴[LIVE] รายการสื่อส่อง…ท่องวัฒนธรรม ตอนที่ ๘ ” เกษตรอินเทรนด์ “ผักยกแคร่ ปลูกง่าย ปลอดภัย สไตล์พอเพียง” ในวันพฤหัสบดี ที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๔ เวลา ๑๑.๐๐-๑๒.๐๐ น.
👉รับชม รายการสื่อส่อง…ท่องวัฒนธรรม ได้ทุกวันพฤหัสบดี เวลา ๑๑.๐๐-๑๒.๐๐ น. ทาง Facebook Fanpage : สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา