สำหรับบุคลากร     สำหรับนักศึกษา        
Skip to content

เกี่ยวกับสถาบันฯ

ABOUT US

วิสัยทัศน์

VISION

สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนาเป็นสถาบันชั้นนำระดับชาติ มุ่งเน้นการยกระดับวัฒนธรรมชายแดนใต้และนวัตกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมอย่างยั่งยืน

วัฒนธรรมองค์กร

CULTURE

ประโยชน์เพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง
(Our Soul is for the Benefit of
Mandkind)

ค่านิยมของสถาบัน

CORE VALUE

CULTURE   หมายถึง องค์กรแห่งพลังสร้างสรรค์ด้านวัฒนธรรมชายแดนใต้สู่ความยั่งยืน

C – Creativity ความคิดสร้างสรรค์

U – Unity ความเป็นหนึ่งเดียว

L – Learning การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง

T – Technology การก้าวทันเทคโนโลยี  

U – Utilization การใช้ประโยชน์จากทุนวัฒนธรรม

R – Respect ความเคารพ

E – Engagement ความมีส่วนร่วม

พันธกิจ

MISSION

1. ผลิตองค์ความรู้ทางวัฒนธรรมชายแดนใต้โดยใช้การวิจัยเป็นฐาน

2.ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมทั้งในห้องเรียนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

3.ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้วยนวัตกรรมทางสังคมบนฐานทุนวัฒนธรรม

4.อนุรักษ์ สืบสาน และสร้างสรรค์วัฒนธรรมชายแดนใต้ในฐานะมรดกภูมิปัญญาของชาติอย่างยั่งยืน

บุคลากรของสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา

แผนพัฒนาสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2563-2568)

การกำหนดแผนพัฒนา กรอบทิศทางการบริหารจัดการสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนานั้น จัดทำขึ้นภายใต้บริบทของมหาวิทยาลัย (PSU Synergy : สานพลังปัญญาเพื่อขับเคลื่อนสังคมสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน) เพื่อขับเคลื่อนมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สู่การเป็นมหาวิทยาลัยเพื่อนวัตกรรมและสังคม ที่มีความเป็นเลิศทางวิชาการ เป็นกลไกหลักในการพัฒนาภาคใต้ ประเทศ มุ่งสู่มหาวิทยาลัยชั้นนำ 1 ใน 5 ของอาเซียน โดยมีการประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งภายในและภายนอก การประชุมทางไกลแต่ละวิทยาเขต เพื่อสอบถามข้อมูลจากรองอธิการบดีฯ ร่วมให้ข้อเสนอแนะแนวทางการดำเนินงานด้านวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2562 การประชุมบุคลากรสังกัดสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา ทั้งวิทยาเขตปัตตานี และวิทยาเขตหาดใหญ่ ด้วยระบบ Zoom เนื่องจากประสบปัญหาสถานการณ์โรคระบาด COVID-19 โดยจัดให้มีการประชุมบุคลากรรวมทั้งหมด และแยกตามกลุ่มงาน ตลอดทั้งเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา เพื่อการแสดงความคิดเห็น ให้ข้อเสนอแนะ อย่างมีส่วนร่วม เพื่อกำหนดทิศทางการพัฒนาสถาบันฯ รวมทั้ง การพิจารณาภาพในอดีต ความเป็นมา

ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนาภายใต้บริบทของความเปลี่ยนแปลงตามประกาศมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เรื่อง การกำหนดวิทยาเขต และการจัดตั้งส่วนงานของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2562 เพื่อให้เข้าใจแนวคิด/ปณิธานเบื้องต้นของการพัฒนา ซึ่งจะนำเสนอพัฒนาการและสถานภาพของสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนาในปัจจุบัน เพื่อเป็นพื้นฐานของการวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนต่อไป

สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา

1. สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา : พัฒนาการจากอดีต ปัจจุบัน และอนาคต

สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ได้เริ่มดำเนินโครงการเมื่อปี พ.ศ. 2520 ตามแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ 4 (พ.ศ.2520 – 2524) ภายใต้ชื่อโครงการจัดตั้งศูนย์การศึกษาเกี่ยวกับภาคใต้ เพื่อทำหน้าที่ด้านการศึกษา ค้นคว้า วิจัย การส่งเสริม สนับสนุน การอนุรักษ์ เผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีและวิถีชีวิตของชุมชนภาคใต้และได้เก็บรวบรวมศิลปะโบราณวัตถุ ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ในแผนพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษา ระยะที่ 7 (พ.ศ.2525 2529) โครงการจัดตั้งศูนย์การศึกษาเกี่ยวกับภาคใต้ ได้รับการบรรจุเรื่องจัดตั้งหน่วยงานภายใต้ชื่อ “สถาบันศิลปวัฒนธรรม” ทำหน้าที่ด้านการทำนุบำรุง ถ่ายทอดคุณค่าทางศิลปะและวัฒนธรรม และเพื่อให้ภาระหน้าที่ของ “สถาบันศิลปวัฒนธรรม” ครอบคลุมภารกิจด้านวัฒนธรรมในทุกๆ ด้าน จึงเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น “สถาบันศิลปะและวัฒนธรรม” แต่จากการสัมมนาผู้ทรงคุณวุฒิ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2538 ให้เปลี่ยนชื่อเป็น “สถาบันวัฒนธรรมศึกษา” เพราะศิลปะเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม และสื่อให้เห็นภารกิจที่ดำเนินการได้ชัดเจน

ในปี พ.ศ. 2545 คราวประชุมสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ครั้งที่ 254 (4/2545) เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2545 และครั้งที่ 255 (5/2545) เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2545 มีมติให้ประกาศจัดตั้ง “สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา” เป็นหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เทียบเท่าคณะฯ และได้รับพระกรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ได้ประทานนามหน่วยงาน

สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา วิทยาเขตปัตตานี ภายใต้การดำเนินงานในช่วงระยะเวลาตั้งแต่กรกฎาคม พ.ศ. 2559-2563 มีภารกิจสำคัญคือทำนุบำรุงและถ่ายทอดคุณค่าทางศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ ภายใต้วัตถุประสงค์ คือ เป็นแหล่งศึกษา วิจัย สะสมองค์ความรู้ รวบรวมข้อมูล และจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นศูนย์การเรียนรู้ตลอดชีวิต และให้บริการสารสนเทศด้านศิลปะและวัฒนธรรม แก่นักศึกษา บุคลากรและประชาชนทั่วไป รวมถึงเป็นหน่วยงานประสานความร่วมมือกับองค์กรต่างๆ ทั้ง ภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย การดำเนินงานทางด้านวัฒนธรรมจึงมีการดำเนินการควบคู่ทั้งด้านการอนุรักษ์ การฟื้นฟู การพัฒนา ตลอดจนการสร้างสรรค์ ท่ามกลางกระแสสังคม และเศรษฐกิจของโลก การปรับตัวในการดำเนินงานทางด้านวัฒนธรรม โดยการอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรมให้คงอยู่ ฟื้นฟูพัฒนา และต่อยอดโดยการใช้องค์ความรู้ทางวัฒนธรรม นำนวัตกรรมก่อให้เกิดให้รายได้เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากชุมชนเข้มแข็งบนพื้นฐานของการนำทุนทางวัฒนธรรมก่อให้เกิดคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะชุมชนในสามจังหวัดชายแดนใต้

โครงการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตหาดใหญ่ โดยได้รับการอนุมัติจากสภามหาวิทยาลัยเมื่อ คราวประชุมครั้งที่ 145 (4/2532)เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2532 เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบภารกิจหลักของมหาวิทยาลัยฯ ด้านการทำนุบำรุง อนุรักษ์ ส่งเสริม เผยแพร่แลกเปลี่ยนและพัฒนาศิลปะและวัฒนธรรมทั้งที่เป็นมรดกวัฒนธรรมของท้องถิ่นและของประเทศ โดยอยู่บนพื้นฐานของการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และให้บริการวิชาการทางด้านศิลปะและวัฒนธรรมเพื่อกำหนดทิศทางในการดำเนินงานเพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูส่งเสริมและพัฒนาวัฒนธรรม เพื่อการเพิ่มคุณค่าให้แก่ภูมิปัญญาท้องถิ่น การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางวัฒนธรรมให้แก่ท้องถิ่น จนสามารถนำคุณค่า และกระบวนการทางวัฒนธรรมไปใช้เพื่อสร้างสรรค์ การพัฒนาศักยภาพนาศักยภาพของชุมชนทั้งทางด้านภูมิรู้ และภูมิธรรมของท้องถิ่นและของประเทศอย่างยั่งยืน ต่อมาในปี พ.ศ. 2553 ที่ประชุมคณบดีในคราวประชุม ครั้งที่ 7/2553 เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2553 ได้พิจารณาเห็นชอบการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานภายในวิทยาเขตหาดใหญ่ที่ไม่ได้มีสถานภาพเทียบเท่าคณะ และได้เปลี่ยนจาก “โครงการจัดตั้ง” เป็น “ศูนย์” ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2553 เป็นต้นมา

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ปรับระบบการดำเนินงานไปสู่รูปแบบการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2559 และตามประกาศมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เรื่อง การกำหนดวิทยาเขตและการจัดตั้งส่วนงานมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2562 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา หน้า 17 เล่ม 136 ตอนพิเศษ 304 ง ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2562 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 14 ธันวาคม 2562 มหาวิทยาลัยได้กำหนดให้ 3 สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา เป็นส่วนงานวิชาการกลางมีบทบาทในการพัฒนากำลังคน วิจัย และพันธกิจเพื่อสังคมในด้านทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัย โดยในการดำเนินงานจะเป็นการหลอมรวมหน่วยงานหลัก 2 หน่วยงาน คือ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา วิทยาเขตปัตตานี และศูนย์ส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม วิทยาเขตหาดใหญ่ เพื่อให้เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกัน

1.2 อาคารที่ทำการ

1.2.1 สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา วิทยาเขตปัตตานี

อาคารหอศิลปวัฒนธรรมภาคใต้

สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2545 จากงบประมาณแผ่นดิน ปี2544 และ 2545 จำนวน 55,000,000 บาท แบ่งอาคารเป็น 2 อาคาร คือ อาคารหอศิลป์ภาคใต้ และอาคารหอวัฒนธรรมภาคใต้ เปิดอาคารเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2547 โดย ฯพณฯ นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอุปนายกสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ให้เกียรติเป็นประธาน

และในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (พระยศในขณะนั้น) เสด็จพระราชดำเนินเปิดการจัดแสดงนิทรรศการ หอวัฒนธรรมภาคใต้ สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา

นิทรรศการภายในหอวัฒนธรรมภาคใต้

สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบงานทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม หนึ่งในภารกิจสำคัญของสถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา คือ การบริการแหล่งเรียนรู้โดยได้มีการจัดตั้ง หอศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ขึ้น อาคารหอศิลปวัฒนธรรมภาคใต้ แบ่งส่วนการบริหารจัดการเป็น 2 ส่วน คือ อาคารหอศิลป์ภาคใต้ จัดแสดงนิทรรศการด้านศิลปกรรมร่วมสมัย อาคารหอวัฒนธรรมภาคใต้ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณีของผู้คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

หอวัฒนธรรมภาคใต้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ได้มาตรฐาน ภายในหอวัฒนธรรมภาคใต้ จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับมรดกทางวัฒนธรรมในสามจังหวัดชายแดนใต้ แบ่งเป็น 13 ส่วน จัดแสดง ได้แก่
1. ภูมิลักษณ์ชายแดนใต้
2. ก่อนกาลโบราณคดีและชาติพันธุ์
3. ประวัติศาสตร์ยุคต้น – ปาตานีดารุสลาม – รัตนโกสินทร์
4. ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรม
5. ภาษาและวรรณกรรม
6. แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
8. วิถีชาวจีน
9. วิถีชาวมุสลิม
10. หัตถศิลป์4
11. การแสดงและการละเล่นพื้นบ้าน
12. ภูมิปัญญาท้องถิ่น
13. ชายแดนใต้วันนี้

อาคารพิพิธภัณฑ์พระเทพญาณโมลี

สร้างเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2531 จากเงินบริจาคของพระเทพญาณโมลี (พระธรรมโมลี) อดีตเจ้าอาวาสวัดตานีนรสโมสร และเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี จ านวน 2,000,000 บาท โดยฯพณฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ เป็นประธานในพิธีเปิดอาคาร

อาคารพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเฉลิมพระเกียรติ (เรือนอำมาตย์โทพระยาพิบูลพิทยาพรรค)

เมื่อปี พ.ศ.2535 ว่าที่รต.ปราโมทย์ และอาจารย์จีรพรพิชญ์ เชาวน์วาณิชย์ ได้มอบอาคารฯนี้ให้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ผ่านนายสมยศ ฉันทวานิช และเมื่อเดือนสิงหาคม ปีพ.ศ. 2538 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ดำเนินการย้ายอาคารบริเวณ “บ้านสวน” มาไว้ ณ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ด้วยเงินงบประมาณรายได้วิทยาเขตปัตตานี จำนวน 800,000บาท โดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จทรงเปิดอาคาร เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2538 (ปัจจุบันอาคารเรือนอำมาตย์ฯ มีความทรุดโทรมเป็นอย่างมาก)

อาคารศูนย์หัตถศิลป์ และลานการแสดงกลางแจ้ง ม.อ.ปัตตานี

จัดสร้างขึ้นโดยการสนับสนุนจากโครงการวงแหวนพหุวัฒนธรรมเมืองปัตตานี Pattani heritage city มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ศูนย์หัตถศิลป์ เป็นแหล่งเรียนรู้ จัดแสดง จำหน่ายและสาธิต ตลอดจนฝึกอบรมวิชาชีพระยะสั้นการทำผ้าลีมาบาติก สถาบันฯ ให้กับนักศึกษาและผู้สนใจ

2. สภาพแวดล้อมการเปลี่ยนแปลง และทิศทางการพัฒนาของประเทศ

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ปรับระบบการดำเนินงานไปสู่รูปแบบการเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พ.ศ. 2559 ภายใต้การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ที่ส่งผลให้มหาวิทยาลัยต้องเตรียมรับกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีพลวัต สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนา ทำหน้าที่ตอบสนองภารกิจคุณค่าสงขลานครินทร์ ด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม จึงจำเป็นที่จะต้องมีการปรับตัว ปรับเปลี่ยนบทบาทให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงและเพื่อการใช้ทรัพยากรร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต นอกเหนือไปจากการเสริมสร้างคุณค่าแห่งวัฒนธรรมเพื่ออนุชนรุ่นหลังและขยายผลสู่การปลูกฝังสำนึกซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่ปัญญา จิตสาธารณะ และกิจกรรมการอนุรักษ์และทำนุบำรุงวัฒนธรรมให้แก่นักศึกษา บุคลากรและประชาชนทั่วไปอย่างต่อเนื่องตามภารกิจของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์แล้ว สถาบันวัฒนธรรมศึกษากัลยาณิวัฒนายังเป็นสถาบันสำคัญในการดำเนินภารกิจด้านศิลปะและวัฒนธรรม พหุวัฒนธรรมกับการพื้นที่ และการร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ด้วยการนำทุนทางวัฒนธรรมมาก่อให้เกิดเศรษฐกิจ พัฒนาชุมชน สังคม