
พืชสมุนไพรต่างๆ ที่มีอยู่ในแต่ละท้องถิ่นนั้นมีมากมาย ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้ล้วนเป็นพืชสารพัดประโยชน์ที่อยู่คู่กับคนไทยมาเป็นเวลายาวนาน เช่น ใบเตย มะกรูด ตะไคร้ ขิง ข่า บัวบก มะเขือเทศ เป็นต้น พืชสมุนไพรเหล่านี้นิยมนำมาใช้ประกอบเป็นอาหารหรือเครื่องดื่มต่างๆ นอกจากนี้แล้วยังสามารถนำมาทำเป็นยาดมสมุนไพร ยาสระผม สเปรย์ไล่ยุง หรือแม้กระทั่งสมุนไพรเหล่านี้ยังสามารถนำมาทำเป็นสเปรย์ปรับอากาศได้อีกด้วย ดังนั้น บทความนี้ผู้เขียนของนำเสนอเรื่อง สมุนไพรริมรั้ว “เนรมิตเสปรย์ปรับอากาศ”
ก่อนที่ไปเรียนรู้วิธีการทำสเปรย์ปรับอากาศ จากสมุนไพรพื้นบ้าน ผู้เขียนขอกล่าวถึง สรรพคุณของสมุนไพรมีมากมายกว่าที่เราคิด เช่น ใบเตยใช้ในการผสมอาหาร ทำอาหาร ดับกลิ่น แก้โรคเบาหวาน ใช้บำรุงหัวใจ มีกลิ่นหอม เมื่อดื่มจะทำให้รู้สึกชุ่มคอ ตะไคร้นอกจากนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของอาหารแล้วยังสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของสารระงับกลิ่นต่างๆ ช่วยดับกลิ่นคาว และกลิ่นหอมของตะไคร้สามารถช่วยไล่ยุงและกำจัดยุงได้เป็นอย่างดี ส่วนมะกรูดใบมะกรูดและน้ำมะกรูดสามารถใช้ดับกลิ่นคาวในอาหารได้ โดยใช้ในการประกอบอาหารและแต่งกลิ่นคาวหวานของอาหาร เช่น ต้มยำ แกงเผ็ด ผัดเผ็ด ฉู่ฉี่ ห่อหมก ทอดมัน โรยหน้าข้าวเหนียวหน้ากุ้ง ฯลฯ นอกจากนี้แล้วมะกรูดยังมีประโยชน์ในการช่วยแก้ปัญหากลิ่นเหม็น กลิ่นอับเชื้อราได้อีกด้วยเหล่านี้เป็นต้น ซึ่งผู้เขียนขอกล่าวถึงรายละเอียดเกี่ยวกับสมุนไพรที่สามารถนำมาใช้ทำสเปรย์ปรับอากาศเพื่อเป็นองค์ความรู้เชิงวิชาการ ดังนี้
ตะไคร้ เป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวประเภทล้มลุก เจริญเติบโตรวมอยู่เป็นกอ ใบและหัวมีกลิ่นหอม ราก เป็นระบบรากฝอยลำต้น อยู่บนดินรวมกันเป็นกอแน่น มีสีเขียวและม่วงอ่อน ลำต้นเป็นรูปทรงกระบอก มีลักษณะแข็งเกลี้ยง ตามปล้องมักมีไขปกคลุม ต้นสูงได้ถึง 1 เมตร ใบ เป็นใบเดี่ยว มีลักษณะยาวเรียวคล้ายใบข้าว ใบรูปขอบขนานแคบ ใบกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร ยาวได้ถึง 100 เซนติเมตร ปลายใบแหลม ผิวใบทั้งสองด้านมีลักษณะสากมือ เส้นกลางใบแข็งตรงรอยต่อระหว่างกากใบและตัวใบมีเกล็ดบางๆ ยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร ตามขอบใบมีขนเล็กน้อยดอก ออกเป็นช่อขนาดใหญ่ ช่อดอกย่อยมีก้านออกเป็นคู่ ๆ แต่ละคู่รองรับด้วยใบประดับช่อ ดอกย่อยประกอบด้วยดอกย่อยออกเป็นคู่ ๆ ดอกหนึ่งมีก้านอีกดอกหนึ่งไม่มีก้าน ภายในดอกย่อยแต่ละดอกประกอบด้วยดอกเล็กๆ 2 ดอก ดอกล่างลดรูปมีเพียงเกลีบเดี่ยวโปร่งแสง ปลายแหลมเรียว ดอกบน ในดอกย่อยที่ไม่มีก้านจะเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ส่วนดอกบนของดอกย่อยที่มีก้านจะเป็นดอกเพศผู้หรือเป็นหมัน ผล มีขนาดเล็กเปลือกบาง ๆ ห่อหุ้มเมล็ด มีแป้งสะสมค่อนข้างมากตะไคร้เป็นพืชที่ปลูกง่าย งอกงามดีในดินเกือบทุกชนิด ยกเว้นดินเหนียว แหล่งกำเนิดที่แน่นอนไม่ทราบแน่ชัด คาดว่าน่าจะเป็นมาเลเซีย ตะไคร้เป็นพืชที่รู้จักและปลูกในหลาย ๆ ประเทศในเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่อมามีการนำไปยังอเมริกาใต้และกลางและไปยังมาดากัสการ์ หมู่เกาะใกล้เคียงจนกระทั่งในแอฟริกา ปัจจุบันมีการปลูกทั่วไปในเขตร้อนและกึ่งร้อน อินเดียและใกล้เคียง หมู่เกาะของประเทศศรีลังกา คาบสมุทรมาเลย์ แล้วแพร่กระจายไปปลูกในประเทศเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนในทวีปเอเชีย อเมริกา แอฟริกา และอื่นๆ ตะไคร้ขึ้นในที่โล่งแจ้ง ดินร่วนทั่ว ๆ ไป ในประเทศไทยปลูกเป็นพืชผักสวนครัว และตะไคร้ยังมีสรรพคุณมากมาย เช่น แก้และบรรเทาอาการหวัด น้ำมันหอมระเหยของใบตะไคร้ สามารถบรรเทาอาการปวดได้ ช่วยแก้อาการปวดศีรษะช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง (ใบสด)ใช้เป็นยาแก้อาเจียน หากนำไปใช้ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ (หัวตะไคร้)ช่วยแก้อาการกษัยเส้นและแก้ลมใบ (หัวตะไคร้)รักษาโรคหอบหืด ด้วยการใช้ต้นตะไคร้ช่วยแก้อาการเสียดแน่นแสบบริเวณหน้าอก (ราก)ใช้เป็นยาแก้อาการปวดท้องและอาการท้องเสีย (ราก)ช่วยแก้และบรรเทาอาการปวดท้อง ช่วยรักษาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ (หัวตะไคร้) ช่วยในการขับน้ำดีมาช่วยในการย่อยอาหาร น้ำมันหอมระเหยจากตะไคร้ มีส่วนช่วยลดการบีบตัวของลำไส้ได้ มีฤทธิ์ช่วยในการขับปัสสาวะ ช่วยแก้อาการปัสสาวะพิการ และรักษาโรคนิ่ว (หัวตะไคร้)ช่วยแก้อาการขัดเบา (หัวตะไคร้) ใช้เป็นยาแก้ขับลม (ต้น) ช่วยรักษาอหิวาตกโรค ช่วยแก้ลมอัมพาต (หัวตะไคร้)ใช้เป็นยารักษาเกลื้อน เป็นต้น
ใบเตย ลักษณะคือ ใบ เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนเป็นเกลียวขึ้นไปจนถึงยอด ลักษณะใบยาวเรียวคล้ายใบหอก ปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเป็นมัน เส้นกลางใบเว้าลึกเป็นแอ่ง ถ้าดูด้านท้องใบจะเห็นเป็นรูปคล้ายกระดูกงูเรือ ดอกเป็นดอกช่อแบบ สแปดิก (spadix) ดอกย่อยแยกเพศและแยกต้น ไม่มีกลีบเลี้ยงและกลีบดอกฝัก/ผล ผลขนาดเล็ก ส่วนใหญ่ไม่เกิดดอกและผล เป็นเตยเพศผู้ การปลูกตามริมคูน้ำบริเวณที่น้ำขังแฉะ หรือที่ดินชื้น การดูแรักษา ชอบแสงแดดรำไร แต่ก็ทนต่อแสงแดดจัด การขยายพันธุ์ ปักชำลำต้น หรือกิ่งแขนง ใบเตยสามารถทำเป็นไม้ประดับสมุนไพรใช้เป็นภาชนะห่อและใส่เพื่อปรุงกลิ่น อาหาร คาวหวาน และยังเป็นพันธุ์ที่ชาวสวนปลูกตัดใบออกจำหน่ายเป็นการค้า ซึ่งใบเตยมีถิ่นกำเนิด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนสรรพคุณทางยาของใบเตยคือ ใช้ใบเตยสดเป็นยาบำรุงหัวใจ ให้ชุ่มชื่นช่วยลดอาการกระหายน้ำ รากใช้เป็นยาขับปัสสาวะ ใช้รักษาเบาหวาน
.jpg)
.jpg)
.jpg)
ส่วนมะกรูด ลักษณะคือ ลำต้น มะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็ก แตกกิ่งก้านสาขามากมาย ปลูกไว้ครั้งเดียวก็มีชีวิตอยู่ได้นานปี ลำต้นและกิ่งมีหนามแหลม ใบ เป็นใบประกอบที่มีใบย่อยเพียงใบเดียว มีก้านใบแผ่ออกใหญ่ เท่ากันกับแผ่นใบ ทำให้เห็นใบเป็นสองตอน ใบค่อนข้างหนาสีเขียวแก่ ใบมีกลิ่นหอมมากเพราะมีต่อมน้ำมัน ดอก ดอกเดี่ยวสีขาวมักจะอยู่เป็นกระจุก 3-5 ดอก กลีบดอกร่วงง่าย ผล เป็นผลเดี่ยว รูปร่างของผลมีหลายแบบแล้วแต่พันธุ์ บางพันธุ์มีผลขนาดใหญ่ บางพันธุ์มีผิวของผลขรุขระและมีจุกที่หัวผล บางพันธุ์ผลมีขนาดเล็ก บางพันธุ์มีผิวของผลเรียบ และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในการปลูกมะกรูดควรเป็นพื้นที่ซึ่งน้ำไม่ท่วม ดินมีการระบายน้ำได้ดี ปกติ มะกรูดต้องการน้ำเพื่อการเจริญเติบโตพอสมควร ถ้าขาดน้ำ จะทำให้พืชเหี่ยวเฉา และเจริญ เติบโตช้า ผลไม่ดก ขนาดและคุณภาพของผลไม่ดี นอกจากนี้ มะกรูดยังเป็นพืชที่มีประโยชน์มากมาย เช่น ใช้เป็นยาหรือส่วนผสมของยาต่างๆ คือ น้ำในผลแก้อาการท้องอืด ช่วยให้เจริญอาหาร น้ำมะกรูดใช้ดองยา เพื่อใช้ฟอกเลือดและบำรุงโลหิตสตรี ใบมะกรูดใช้เป็นยาขับลมในลำไส้ แก้จุกเสียด ผลมะกรูดที่คว้านไส้ออก ใช้เป็นยาขับลมแก้ปวดท้องในเด็กอ่อน ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องหอมและเครื่องสำอางต่างๆ กรด Citric ช่วยขจัดคราบสบู่ (ด่าง) ที่หลงเหลืออยู่ทำให้ผมหวีง่าย น้ำมันจากผิวมะกรูดช่วยให้ผมดกเป็นเงางาม
จากการสัมภาษณ์ปราชญ์ท้องถิ่น คุณซัลมาสะแต ได้กล่าวถึงวิธีการทำสเปรย์ปรับอากาศจากสมุนไพรดังนี้
ขั้นเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ประกอบด้วยหม้อ กรวย ขวดสเปรย์ ภาชนะตวง ตะไคร้ 20 กรัม ใบมะกรูด 20 กรัม ใบเตย 20 กรัม แอลกอฮอล์
(เจือจาง 70%) 50 มิลลิลิตร
ส่วนขั้นตอนวิธีการทำสเปรย์ปรับอากาศจากสมุนไพรมีดังนี้
1) นำใบเตย ตะไคร้หอม ใบมะกรูดมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ (เพื่อให้สมุนไพรสามารถออกกลิ่นได้เร็วกว่าการที่ต้มโดยไม่หั่น)
2) นำสมุนไพรทั้ง 3 ชนิดลงไปต้มชนิดละ 20 กรัม ต่อแอลกอฮอล์ 50 มิลลิลิตร
3) ทิ้งไว้ให้เย็นแล้วกรองกากสมุนไพรออก
4) จะได้น้ำสมุนไพรที่กรองแล้ว
5) นำน้ำสมุนไพรทั้งสาม บรรจุใส่ขวดสเปรย์ พร้อมใช้งาน
จะเห็นว่า สเปรย์ปรับอากาศจากสมุนไพรท้องถิ่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถทำได้ด้วยตนเอง วัสดุ อุปกรณ์สามารถหาไม่ยาก เนื่องจากมีอยู่รอบๆ ตัว ซึ่งสมุนไพรท้องถิ่นเป็นพืชที่คนในไทยนิยมปลูกกันเกือบทุกครัวเรือน สามารถนำมาทำเป็นอาหารในการรับประทาน ยารักษาโรค รวมถึงสเปรย์ปรับอากาศ ซึ่งสเปรย์ปรับอากาศที่ทำจากสมุนไพรที่ได้มากจากท้องถิ่นนั้นมีจุดเด่นที่ดี คือ สามารถขจัดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ไม่ต่างกับผลิตภัณฑ์สเปรย์ปรับอากาศที่ทำมาจากสารเคมี ที่มีการขายอยู่ในทั่วท้องตลาด และอีกทั้งยังมีความปลอดภัยต่อสุขภาพของทุกคน ทั้งเพื่อเป็นการส่งเสริม อนุรักษ์ภูมิปัญญาและสมุนไพรการแพทย์แผนไทยในท้องถิ่นให้กับคนรุ่นหลังต่อๆไป
ดังนั้นผู้เขียนจึงอยากส่งเสริมให้มีการรณรงค์ให้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากพืชสมุนไพร และส่งเสริมให้มีการเผยแพร่องค์ความรู้เกี่ยวกับการทำสเปรย์ปรับอากาศจากสมุนไพรท้องถิ่นให้คุณผู้อ่านได้รับทราบ สามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ทดลองทำใช้เองในครัวเรือนที่บ้าน เพราะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือนจากเดิมที่ต้องซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตามร้านค้า ซึ่งมีราคาแพง และเพื่อให้ผู้คนหันกลับมาสนใจในการใช้พืชสมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งนับว่าเป็นสิ่งที่ดีในการช่วยกันอนุรักษ์ให้ผู้คนหันกลับมาสนใจในการใช้พืชสมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่นมากยิ่งขึ้น
________________________________________________
เรียบเรียงบทความโดย นางสาวนิปาตีเมาะ หะยีหามะ นักวิจัยสถาบันฯ
.
เอกสารอ้างอิง
ซัลมา สะแต. (สัมภาษณ์). ตำบลลางา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี.
ตะไคร้ สรรพคุณและประโยชน์ของตะไคร้. (ม.ป.ป.) สืบค้นจาก : http://frynn.com